ติดต่อสายด่วนได้ที่ :
02-978-2714

4 ประเภทที่โดดเด่นของสแตนเลสมีอะไรบ้าง

          สแตนเลส หรือ เหล็กกล้าไร้สนิม เป็นมักจะพบในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้ เช่น อุปกรณ์เครื่องครัว หม้อสแตนเลส ช้อนสแตนเลส ตู้เก็บของหรือตู้ไว้สำหรับทำอาหาร เป็นต้น โดยสแตนเลสนั้นจะเป็นโลหะที่ผสมระหว่างเหล็กกับคาร์บอน ทำให้มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนสูง จึงไม่เป็นสนิมได้ง่าย และมีฟิล์มโครเมียมอกไซด์ตัวนี้นี่เองที่ช่วยปกป้องไม่ให้มีอะไรมากัดกร่อนสแตนเลสได้ แม้จะถูกทำลายด้วยสารเคมีและออกซิเจนในบรรยากาศไปบ้าง แต่ก็จะมีการสร้างฟิล์มขึ้นมาทดแทนใหม่และคอยปกป้องสแตนเลสอยู่เสมอ

          นอกจากนี้ สแตนเลสสามารถนำมาปรับปรุงคุณสมบัติให้สูงขึ้นได้ ด้วยการใส่ส่วนผสมของโครเมี่ยมเพิ่มเข้าไป หรือใส่ธาตุอื่นๆ อย่างเช่น นิกเกิลหรือไนโตรเจน ก็จะทำให้สแตนเลสมีคุณสมบัติในการต้านทานต่อการกัดกร่อนได้ดี และสามารถขึ้นรูปได้ง่ายขึ้น จึงสามารถนำมาใช้งานได้อย่างหลากหลายขึ้นด้วย โดยบทความนี้เราจะกล่าวถึงประเภทของสแตนเลสว่าแต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไร

ประเภทของสแตนเลสมีดังนี้

      1. สเตนเลสออสเทนนิติค (Austenitic Stainless Steel)

           - ถือว่าเป็นประเภทที่นิยมในท้องตลาดและถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมากที่สุด
           - มีคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดไม่ติด (non – magnetic) 
           - มีส่วนผสมของนิกเกิลเพื่อเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน และทำให้เชื่อม ดัด หรือขึ้นรูปได้ง่าย

       2. สเตนเลสเฟอร์ริติค (Ferritic Stainless Steel)​

           - มีคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดติด (magnetic) 
           - ประกอบด้วยคาร์บอนในปริมาณต่ำ และมีโครเมียมเป็นธาตุผสมหลักที่สำคัญประมาณ 10.5-30% 
           - สเตนเลสเฟอร์ริติคมีความแข็งแกร่งสูงกว่าออสเตนิติก จึงมักถูกนำมาใช้กับงานที่ต้องเสี่ยงต่อการแตกร้าวเนื่องจากแรงเค้นและการกัดกร่อน (Stress-Corrosion Cracking) 
           - ยิ่งกว่านั้นสเตนเลสเฟอร์ริติกบางชนิดยังมีส่วนผสมของไททาเนียม หรือไนโอเบียม จัดเป็น “กลุ่มเสถียร” ที่มีความสามารถในการเชื่อมได้ดีและต้านทานการกัดกร่อนดียิ่งขึ้น

       3. สเตนเลสมาร์เทนซิติค (Martensitic Stainless Steel)

           - มีความต้านทานการกัดกร่อนน้อยกว่าออสเทนนิติค และเฟอร์ริติค แต่มีคุณสมบัติเด่นในด้านความทนทานและแข็งแรงที่มากกว่า มีคุณสมบัติแม่เหล็กดูดติด(magnetic)
           - สเตนเลสมาร์เทนซิติคโดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของโครเมียมอยู่ที่ 12-14% โมลิบดินัม 0.2-1 % มีนิกเกิ้ล 0-2 % และมีคาร์บอนผสม อยู่ประมาณ 0.1-1 % 
           - สเตนเลสประเภทนี้สามารถปรับความแข็งได้โดยการให้ความร้อนแล้วทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว (Quenching) และอบคืนตัว (Tempering) สามารถลดความแข็งได้ พบการใช้งานที่สำคัญในการผลิตเครื่องตัด อุตสาหกรรมเครื่องบินและงานวิศวกรรมทั่วไป เป็นต้น

       4. สเตนเลสดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Steel)

           - โครงสร้างพื้นฐานของสเตนเลสดูเพล็กซ์จะคล้ายตัวสเตนเลสเฟอร์ริติคและสเตนเลสออสเทนนิติคที่มีปริมาณ   โครเมี่ยมสูงระหว่าง 18-28% และนิกเกิ้ล (Ni) มีปริมาณปานกลางที่5-8% ซึ่งปริมาณนิกเกิ้ล (Ni) ที่ต่ำนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างเป็นออสเทนนิติคอย่างเต็มรูปแบบ แต่พิเศษกว่าตรงที่มีการใส่โมลิบดีนัมไป (Mo) ประมาณ 2.5-4%
           - ลักษณะเด่นของสเตนเลสชนิดนี้คือ สามารถเชื่อมและขึ้นรูปได้ดี ทนทานต่อกรด Chloride เป็นพิเศษ มีความแข็งกว่าทั้งสเตนเลสเฟอร์ริติคและสเตนเลสออสเทนนิติค และยังทนต่อการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม (Excellent Corrosion Resistance)

 

งานสแตนเลสตามแบบ      รับงานสแตนเลสตามแบบ

 

             หากสนใจผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจาก สแตนเลส ทาง ห้างหุ้นส่วนจำกัด แอคเซ็ป รับผลิต ออกแบบรับทำงานโลหะทุกรูปแบบ บริการงานของเรา ได้แก่ งานเจาะรูตะแกรงแบบพิเศษ Special perforated metal sheet งานตัดแผ่นโลหะ รับงานทำด้วยแผ่นทองแดง งานพับแผ่นโลหะ งานปั๊มขึ้นรูปแผ่นโลหะ แผ่นตะแกรงอลูมิเนียม งานปั๊มเจาะฉลุแผ่นโลหะ งานเชื่อมประกอบโลหะ บานเกล็ดระบายอากาศ งานเชื่อมสปอต งานเชื่อมโลหะด้วยหุ่นยนต์ และงานเชื่อมประกอบโลหะ รับงานอลูมิเนียมตามแบบ รับงานสแตนเลสตามแบบ งานแปรรูปสแตนเลสคุณภาพดี โดยชิ้นงานทุกชิ้นเราให้ความสำคัญกับคุณภาพงานและการจัดส่งมอบงานให้ทันเวลา เราจึงได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้า

 

---------------------------------------------------------------

บทความที่เกี่ยวข้อง
       • ประโยชน์ของการใช้งานสแตนเลส
       • การเลือกใช้วัสดุที่นำมาแปรรูปเป็นส่วนประกอบของชิ้นงาน